น้ำมันก๊าซ หาซื้อน้ำมันก็าซมาใส่ถ้วยๆเล็กๆ แล้ววางไว้ตามจุดต่างๆของบ้าน หนูมันจะเหม็นกลิ่นน้ำมันที่ระเหยออกมาและจะไม่เข้าใกล้บริเวณนั้นอีกเลย เป็นวิธีที่ได้ผลดีครับ แต่ข้อเสียคือไม่ใช่แค่หนูที่เหม็นเท่านั้น คนอย่างเราก็เหม็นด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้น วิธีกำจัดหนู วิธีนี้จะเหมาะกับบริเวณที่เราไม่ค่อยได้ใช้งาน ห้องเก็บของ ซะมากกว่า แต่ถ้าทนได้ก็ดีครับ 6. ลูกเหม็น หลักการก็จะคล้ายๆกับน้ำมันก๊าซ หนูมันไม่ชอบกลิ่นมันก็ไม่เข้าใกล้ แต่ใช้ลูกเหม็นจะสะดวกกว่าหน่อย เพราะมันเป็นเม็ดๆก็แค่จับโยนไปที่ที่เราต้องการป้องกันการรุกรานจากหนูเป็นจุดๆไป เดี๋ยวมันก็จะระเหิดไปเอง ส่วนกลิ่นก็ไม่แรงเท่าน้ำมันก๊าซก็น่าจะพอทนกันได้ ยิ่งใครที่เจอปัญหาหนูวิ่งอยู่บนฝ้าเพดาน จับลูกเหม็นโยนขึ้นไปสัก 4-5 เม็ดรับรองไม่นานเงียบสนิท 7. น้ำยาไล่หนูสมุนไพร ก็หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป เป็นน้ำมาพร้อมกับหัวฉีดใช้ฉีดตามจุดที่หนูชอบมา ข้อดีคือไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์เพราะสกัดมาจากสมุนไพร เช่น กระเพรา สะระแหน่ มะกรูด แต่ข้อเสียอาจจะใช้ได้ในระยะสั้น และถ้าต้องใช้ในที่กว้างๆหลายๆจุดก็อาจจะเปลืองงบประมาณสักนิดนึง 8. ดักด้วยกรง วิธีเบสิคที่หลายๆคนก็คงคิดถึงกันอยู่แล้ว ก็ซื้อกรงสำหรับดักหนูมา แล้วก็เอาอาหารเข้าไปล่อ พอติดกับก็เอาไปปล่อยไกลๆบ้าน ข้อดีคือไม่ต้องฆ่าหนูทิ้ง และเวลาที่หนูโดนจับมันก็จะปล่อยกลิ่นออกมาเหมือนใช้เตือนเพื่อนว่าอย่าเข้ามาแถวๆนี้อีก หนูมันก็จะหายไปจากบริเวณรอบๆกรงไปที่ใหม่แทน ข้อเสียคือเอาไปปล่อยแล้วมันก็ไปเข้าบ้านคนอื่นต่ออีก แล้วมันอาจจะไปเจอหนูเจ้าถิ่นแถวนั้นทำร้าย สุดท้ายก็ตายอยู่ดี ( อย่าลืมว่าเราก็มีส่วนรู้เห็นด้วยนะครับ) อ้างอิงจาก
อ่าน 9, 314 เป็นปัญหาซ้ำซาก สำหรับหนู เข้าบ้านมันสร้างปัญหาได้มากมายแค่ไหน ไม่เพียงแค่เป็นตัวความสกปรก เป็นพาหะนำเชื้อโรค แอบกินอาหาร ข้าวสาร ทั้งยังชอบทำลายข้าวของ กัดแทะทุกอย่างให้เสียหาย เรียกได้ว่าสร้างความเดือดร้อนได้ไม่หยุดหย่อนเลยทีเดียว จึงมาแนะนำวิธีกำจัดหนูให้ออกจากบ้านมาฝาก โดยไม่ต้องฆ่าและไม่บาปอีกด้วย 1. น้ำมันก๊าด เทน้ำมันก๊าดใส่ถ้วยเล็กๆ ไปวางไว้ตามจุดที่หนูมักจะอาศัยอยู่ หรือจะวางไว้หลอกล่อกับแหล่งอาหารของหนูก็ได้ กลิ่นฉุนๆ ของน้ำมันก๊าดจะทำให้หนูไม่อยากอยู่ใกล้เลยทีเดียว แต่ควรระวังอย่าใช้ในบ้านที่มีเด็ก และต้องหมั่นเปิดหน้าต่าง ประตู เพื่อระบายกลิ่นบ้าง 2. ประทัด หนูเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจพอสมควร ให้ซื้อประทัดมาจุดใกล้ๆ รังหนู เพื่อให้หนูตกใจกับเสียงประทัดบ่อยๆ เข้าเป็นอันต้องอพยพกันออกไป 3. กรงดักหนู เลือกใช้กรงดักหนู แล้วนำอาหารหรือเหยื่อล่อหนูใส่เข้าไป จากนั้นเมื่อหนูวิ่งเข้าไปในกรงแล้ว กรงก็จะปิดลง เราก็แค่นำหนูในกรงไปปล่อยไว้ให้ไกลบ้านมากที่สุด และต้องไกลจากบ้านคนอื่นด้วย อย่างเช่นในป่า หรือตึกร้าง 4. เม็ดไล่หนู เม็ดไล่หนูจะมีลักษณะเป็นเม็ดสีดำ กลิ่นฉุน เมื่อนำไปวางไว้ใกล้รังหนู และจุดที่หนูมักจะออกมาปรากฏตัว จะทำให้หนูทนกลิ่นไม่ไหวและหนีหายไปในที่สุด 5.
กำจัดอาหารของหนู มีแหล่งอาหารตรงไหน หนูก็อยู่ตรงนั้น จัดการบ้านให้สะอาดหมดจด จัดการอาหารเก็บใส่ภาชนะหรือตู้เก็บ ตู้เย็นให้เรียบร้อย ไม่มีเศษอาหารเหลือตกค้าง ทำให้หนูไม่ต้องการใช้บ้านเราเป็นที่อยู่อาศัย บทความแนะนำ
จากบทความในครั้งที่แล้ว เจ้าของบ้านทุกท่านก็คงจะพอทราบวิธีการสังเกตร่องรอยหลักฐานที่บรรดาหนูฝากไว้ในบริเวณบ้านกันมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ? ดังนั้น สำหรับครั้งนี้ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า มีกลเม็ดเคล็ดลับอย่างง่ายๆ อะไรบ้างที่จะสามารถช่วยไล่เจ้าหนูตัวร้ายให้ห่างไกลไปจากบ้านแสนรักของทุกท่านได้บ้าง 1. ให้หนูไปไม่เป็น แค่ลูกเหม็นก็เอาอยู่ ลูกเหม็นนั้นนับว่าเป็นอุปกรณ์สารพัดประโยชน์จริงๆ ค่ะ นอกจากจะช่วยดับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้แล้ว ยังสามารถใช้ในการไล่แมลงและสัตว์ศัตรูบ้านได้หลายชนิด ซึ่งก็รวมถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ กลิ่นฉุนๆ เย็นๆ ของลูกเหม็นนั้นเป็นหนึ่งในสิ่งที่บรรดาหนูน้อยใหญ่ต่างพากันขยาดไม่ใช่น้อย ลองนำลูกเหม็นไปวางไว้ตามแหล่งกบดานและตามเส้นทางเดินของหนู เช่น ตามซอกหลืบ ถังขยะ ข้างแนวบัวเชิงผนังดูสิคะ รับรองว่าประชากรหนูในบ้านของท่านต้องพากันหนีหน้าหายไปจากบริเวณดังกล่าวอย่างแน่นอน 2. ถ้าจะให้จบกัน ต้องมาเจอน้ำมันก๊าด สำหรับกลิ่นฉุนรุนแรง ที่ชวนให้เวียนศีรษะนั้น ต้องยกให้น้ำมันก๊าดเลยค่ะ ขนาดคนเราเจอกลิ่นนี้เข้าไปแล้วยังแทบจะเป็นลม ดังนั้นสำหรับบรรดาหนูนั้นต้องเป็นกลิ่นที่ชวนคลื่นไส้สุดๆ เป็นแน่ เพียงแค่เทน้ำมันก๊าด (หรือจะใช้น้ำมันสนแทนก็ได้ค่ะ) ใส่ภาชนะขนาดเล็กแล้วนำไปวางไว้ตามจุดต่างๆ ที่อยู่ในซอกหลืบของตัวบ้าน พวกหนูๆ ทั้งหลายก็จะพากันเผ่นออกไปจากบ้านท่านอย่างไม่คิดชีวิตเลยละค่ะ แต่ต้องระวังให้ดีค่ะ ห้ามใช้ในบ้านที่มีเด็กอาศัยอยู่ และควรเปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายอากาศอย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ 3.
กับดักระดับห้าดาว ต้องกรงและกาวเท่านั้น นับเป็นวิธีคลาสสิคสุดๆ ที่ใช้ได้ผลมาตลอดไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหน สำหรับการวางกับดักด้วยกรงดักหนูหรือกาวดักหนู เวลาวางกับดักนั้น มีข้อควรจำว่าให้วางมากกว่า 1 ชิ้นเสมอ และต้องวางติดกับแนวกำแพงเท่านั้นนะคะ เพราะเป็นแนวเส้นทางเดินสุดฮิตที่พวกหนูชอบใช้มากที่สุดนั่นเองค่ะ 4. สำหรับสายสมุนไพร ให้ลองใช้ต้นยี่โถ เป็นวิธีออร์แกนิคจากธรรมชาติที่ไร้พิษภัยสุดๆ เนื่องจากไม่ใช้สารเคมี อันตรายและไม่ก่อให้เกิดกลิ่นฉุนรบกวนสมาชิกในบ้านด้วยนะคะ หากบ้านของท่านมีพื้นที่พอจะปลูกต้นไม้ ลองหายี่โถมาปลุกติดสวนไว้สักต้นสิคะ แล้วตัดกิ่งยี่โถไปวางไว้ในบริเวณหนูชุกชุม พวกมันก็จะพากันเบือนหน้าหนี และอพยพออกไปจากบริเวณบ้านของท่านในที่สุด 5.
มีหลายวิธีในการขับไล่หนูออกจากบ้าน จากการใช้วิธีรุนแรงและการจ้างมืออาชีพจำกัดหนูออกจากบ้านโดยใช้ยาและสารเคมี คนที่ไม่อยากฆ่าหนู ไม่อยากทำบาป นี่คือ 6 วิธีกำจัดหนูจาก บ้าน. โดยไม่ต้องฆ่าให้บอก วิธีกำจัดหนู ทำไมเราต้องกำจัดหนู? หนูเป็นสัตว์ที่สามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว และชอบอยู่ในที่สกปรกซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรค นอกจากการอยู่อาศัยในธรรมชาติแล้ว หนูยังสามารถปรับตัวและใช้ชีวิตในอาคารของมนุษย์ได้ ทำให้หนูสามารถแพร่เชื้อโรคสู่มนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม หนูเป็นพาหะของโรคต่างๆ เช่น โรคฉี่หนู โรคฉี่หนู และโรคติดเชื้ออื่นๆ ซึ่งบางชนิดสามารถทำให้เกิดโรคร้ายแรงและถึงกับเสียชีวิตได้ มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรสามารถกำจัดหนูจากบ้านเราได้บ้าง อะไรมีประสิทธิภาพในการไล่หนู? มาดูกัน.
การที่จะต้องมารบรากับสัตว์ที่ไม่รับเชิญแต่ละชนิดนี่เป็นอะไรที่น่าปวดหัวมากเลยใช่มั้ยคะ? ไหนจะยุงเอย มดเอย แมลงสาบเอย นกพิราบเอย หนูเอย เฮ้อ! แค่คิดก็เหนื่อยแล้วเนอะ ซึ่งในบทความก่อนหน้านี้เราได้แชร์วิธีไล่เจ้านกพิราบกันไปแล้ว (เพื่อน ๆ ลองอ่านได้นะคะ) ครั้งนี้เราจึงจะมาแชร์วิธีไล่เจ้าหนูบ้านตัวน้อยใหญ่กันบ้าง บอกก่อนเลยว่าสำหรับเราไล่นกพิราบง่ายกว่าเยอะเลยค่ะ เพราะหนูบ้านค่อนข้างดื้อ แทะเก่ง แถมบางตัวดุอีกต่างหาก จะไล่ให้ไปค่อนข้างยากเลย โดยวิธีที่เราจะนำมาแชร์ครั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบ้านนะคะ แต่ค่อนข้างได้ผลกับบ้านเรา อาจจะไม่100%แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมมากค่ะ และวิธีไล่หนูที่เราจะมาแชร์ก็มีดังนี้ค่ะ 1.
เสียงดัง วิธีการไล่หนูด้วยเสียงที่ดังเป็นวิธีไล่หนูแบบเฉพาะหน้าสำหรับคนไม่ยอมแพ้ค่ะ ใช้ได้จริงในระยะสั้น ๆ แต่ไล่ได้แน่นอนค่ะ สู้กันให้ถึงที่สุดโดยเอาเสียงเข้าข่มจนเจ้าหนูวิ่งหนีหางจุกก้นเลยทีเดียว 6. เลี้ยงสัตว์ สำหรับใครที่ลองวิธีไหนก็ไล่หนูไม่ได้สักทีลองเลี้ยงแมวให้ช่วยจับหนูดูก็ได้นะคะ แต่ต้องเลือกแมวดี ๆ นะ เพราะเดี๋ยวนี้แมวกลัวหนูก็มีให้เห็นเยอะค่ะ 😄 ภาพถ่ายโดย Dids จาก Pexels 7. ทิ้งเศษอาหารให้เป็นที่ สำหรับข้อนี้เป็นการแนะนำให้บ้านของเพื่อน ๆ มีหนูมารบกวนให้น้อยที่สุดค่ะ คือการที่เพื่อน ๆ ทิ้งขยะให้เป็นที่โดยเฉพาะเศษอาหาร ไม่ควรมีไว้ในบ้านจนข้ามวัน ข้ามคืนนะคะ หากจัดการได้ให้รีบจัดการเลยค่ะ เพราะไม่งั้นเดี๋ยวเจ้าหนูจะมาลุยเอาได้ 8.
คดี แตงโม กรณีเฟซบุ๊กชื่อว่า @ผมชื่อ "เมษ"ครับ โพสต์รูปภาพท่าเรือแห่งหนึ่งที่ติดอยู่กับแม่น้ำ พร้อมข้อความบรรยายไว้ยืดยาว ซึ่งในช่วงท้ายของโพสต์ดังกล่าวอ้างอิงและติดแฮชแท็กคดีแตงโม ระบุว่า "เหตุการณ์ทั้งหมดที่อ่านในเพจนี้ เป็นเพียงนิยายฆาตกรรมสืบสวนสอบสวนเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องที่เขียนแต่งขึ้นสุด หากมันไปตรงกับชีวิตของใคร หรือคดีใด หรือเหตุการณ์ของใคร ขอให้รู้ไว้ว่าช่าง ไม่เกี่ยวกับนิยายกู กูเขียนนิยาย เครนะ #ใครฆ่าแตงโม #วิมาลา #พระยาเหิน" จากนั้นวันที่ 13 มี. ค.
elderlyinnovation.com, 2024