1789 (FRENCH REVOLUTION: ค. 1789) ได้หันมา สนใจปฏิวัติอุตสาหกรรมเช่นเดียวกับเยอรมนีและสหรัฐอเมริกา และก้าวขึ้นเป็นคู่แข่งกับอังกฤษ ส่วนการคมนาคมทางน้ำ ใน ค. 1807 โรเบิร์ต ฟุลตัน (ROBERT FULTON) ชาวอเมริกัน ประสบความสำเร็จในการนำพลังไอน้ำมาใช้กับเรือเพื่อรับส่งผู้โดยสาร ต่อมา ค. 1840แซม มวล คูนาร์ด (SEMUEL CUNARD) เปิดเดินเรือกลไฟแล่นข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกได้ภายใน 14 วัน และมีการปรับปรุงเรือกลไฟให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นทางด้านรถยนต์มีการนำพลังไอน้ำมาใช้กับรถสามล้อ ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ได้มี การประดิษฐ์เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน จนถึง ค. 1857 คาร์ล เบนซ์ (KARL BENZ) และ กอตต์ลีบ เดมเลอร์ (GOTTLIEB DAIMLER) สามารถนำเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินมาใช้กับรถยนต์ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์เจริญก้าวหน้าขึ้นในยุคนี้ยังได้มีการประดิษฐ์เครื่องพิมพ์แบบลูกกลิ้งขึ้นใช้ใน ค. 1812 ทำให้การพิมพ์ พัฒนาได้ปริมาณมากขึ้นและเร็วทันเหตุการณ์ หนังสือพิมพ์จึงแพร่หลาย การเผยแพร่ความรู้และ ข่าวสารก็แพร่หลายในวงกว้างขึ้น นอกจากนี้ยังมีการริเริ่มระบบไปรษณีย์ในอังกฤษ ใน ค. 1840 ทำให้การสื่อสารสะดวกรวดเร็วขึ้น ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 แซมมวล มอร์ส (SEMUEL MORSE) ประดิษฐ์โทรเลขได้สำเร็จเป็นคนแรก ใน ค.
1815 (พ. 2358) ก็ได้เกิดคลองต่างๆ มีความยาวกว่า 3, 200 กิโลเมตรทั่วอังกฤษ ในต้นศตวรรษที่ 19 "ริชาร์ด เทรวิธิก (Richard Trevithick)" นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษ ได้นำเสนอ "รถจักรไอน้ำ" ก่อนที่ในปีค. 2373) รถจักรไอน้ำจะเริ่มบรรทุกสินค้าและผู้โดยสาร ไปๆ มาๆ ระหว่างแมนเชสเตอร์และลิเวอร์พูล ในเวลานั้น เรือที่ใช้เครื่องจักรไอน้ำก็มีใช้อย่างแพร่หลายแล้ว โดยเรือเหล่านี้ใช้ขนสินค้าระหว่างแม่น้ำและคลองต่างๆ ในอังกฤษ ริชาร์ด เทรวิธิก (Richard Trevithick) ในช่วงหลังของการปฏิวัติอุตสาหกรรม อีกสิ่งที่ได้รับการพัฒนาก็คือ "การสื่อสาร" ในปีค. 1837 (พ. 2380) "วิลเลียม คุก (William Cooke)" และ "ชาร์ลส์ วีทสโตน (Charles Wheatstone)" สองนักประดิษฐ์ชาวอังกฤษ ได้จดสิทธิบัตรโทรเลขที่นำมาใช้ได้จริงครั้งแรก และระบบโทรเลขของทั้งสอง ก็ถูกนำมาใช้ในการให้สัญญาณรถไฟ นอกจากนั้น การธนาคารและการลงทุนก็เติบโต อีกทั้งยังมีการก่อตั้งตลาดหุ้นในลอนดอนเมื่อปลายศตวรรษที่ 18 ตามมาด้วยตลาดหุ้นนิวยอร์กในเวลาไล่เลี่ยกัน ในปีค. 1776 (พ.
ศ. 1760-1860) (สมัยแห่งพลังไอน้ำ) เทคโนโลยีที่ใช้ไม่สลับซับซ้อน ส่วนมากเป็นเครื่องจักรอุตสาหกรรมทอผ้า การทำอุตสาหกรรมเหล็ก เป็นวัสดุพื้นฐานของการทำอุตสาหกรรมอื่นๆ จนได้ชื่อว่าการปฏิวัติยุคเหล็ก สินค้าที่ผลิตส่วนมากตอบสนองความต้องการของคนในทวีปยุโรป ระยะที่ 2 (ค. 1860-1914) (สมัยแห่งแก๊ส น้ำมัน และไฟฟ้า) เกิดอุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น อุตสาหกรรมเคมีและเครื่องจักร มีการใช้พลังงานใหม่ มีความเจริญด้านอุตสาหกรรมมากขึ้น จนได้ชื่อว่า "การปฏิวัติยุคเหล็กกล้า" มีการจัดระบบโรงงานอุตสาหกรรมแบบใหม่ มีระบบการลงทุนที่มีสถาบันการเงินเข้ามาควบคุมกิจกรรมในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ระยะที่ 3 (ค.
ศ 1760-1840 เป็นระยะที่มีการประดิษฐ์เครื่องจักรช่วยในการผลิตและการปรับปรุง โรงงานอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพ และการปฏิวัติอุตสาหกรรมระยะที่ 2 ระหว่าง ค. 1861- 1865 เป็นการปรับปรุงการคมนาคมสื่อสาร ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จของอุตสาหกรรมเหล็ก และเครื่องจักรไอน้ำ การปฏิวัติอุตสาหกรรมในระยะแรก คือ การประดิษฐ์เพื่อตอบสนองอุตสาหกรรมการ ทอผ้า เช่น ใน ค. 1733 จอห์น เคย์ (JOHN KAY) แห่งเมืองแลงคาเชียร์ (LANCASHIRE) ได้ประดิษฐ์กี่กระตุก (FLYING SHUTTLE) ซึ่งช่วยให้ช่างทอผ้าสามารถผลิตผ้าได้มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า ค. 1764 เจมส์ ฮาร์กรีฟส์ (JAMES HARGREAVES) สามารถผลิตเครื่องปั่นด้าย (SPINNING JENNY) ได้สำเร็จ ต่อมา ค. 1769 ริชาร์ด อาร์กไรต์ (RICHARD ARKWRIGHT) ได้ปรับปรุง เครื่องปั่นด้ายให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และพัฒนาเป็นเครื่องจักรกลที่ใช้พลังน้ำหมุนแทนพลังคนเรียกว่า WATER FRAME ทำให้เกิดโรงงาน ทอผ้าตามริมฝั่งแม่น้ำทั่วประเทศ มีการ ขยายตัวทำไร่ฝ้ายในอเมริกา ต่อมาวิตนีย์ (ELI WHITNEY) สามารถประดิษฐ์เครื่อง แยกเมล็ดฝ้ายออกจากใย (COTTON GIN) ได้เมื่อ ค. 1793 การพัฒนาอุตสาห- กรรมการทอผ้าของอังกฤษเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 การประดิษฐ์ที่พัฒนาควบคู่กับการทอผ้า คือ การประดิษฐ์เครื่องจักรไอน้ำ โดยเจมส์ วัตต์ ( JAMES WATT) ชาวสกอต ประดิษฐ์ได้ใน ค.
เทคโนโลยีและนิเวศน์อุตสาหกรรม 4. 0 ไม่ว่าจะเป็น หุ่นยนต์ขั้นสูง การพิมพ์สามมิติ ความเป็นจริงแต่งเติม และการจำลองโรงงานดิจิทัลแบบเรียลไทม์ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถปรับปรุงความเร็วและผลผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังเสริมศักยภาพยกระดับสู่การแข่งขันบนเวทีโลก ทำให้สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ตระหนักถึงโอกาสในการยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตในภูมิภาคโดยทันที บทความนี้จึงขอนำเสนอพัฒนาการของของประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านที่สอดรับกับอุตสาหกรรม 4.
elderlyinnovation.com, 2024