2. เลือกสถาบันการเงิน แม้จะทำข้อแรกสำเร็จ มีหลักฐานการทำงานแน่ชัด แต่คุณเองก็ต้องเป็นฝ่ายเลือกสถาบันการเงิน ที่รองรับผู้กู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สำหรับคนไทยในต่างประเทศ โดยจะต้องเริ่มค้นหาสินเชื่อที่ตอบโจทย์ โดยการเปรียบเทียบวงเงินกู้ที่ได้ อัตราดอกเบี้ย จำนวนเงินผ่อนชำระคืน ระยะเวลาการผ่อนชำระ พยายามมองหาสินเชื่อที่มีข้อเสนอที่ดีที่สุด และคิดว่าเข้ากับการเงินของคุณที่มีมากที่สุด ก็จะสามารถยื่นขอกู้สินเชื่อซื้อบ้านได้อย่างสบายใจ บางคนยื่นกู้กับสินเชื่อเพียงธนาคารเดียวก็ผ่านแล้ว 3.
3 ทริค เปลี่ยนคนเก็บเงินไม่อยู่ สู่ความมั่งคั่ง 1. ประเมินกำลังตัวเอง สิ่งแรกที่ต้องเริ่มทำทันทีที่คิดว่าจะ "ซื้อบ้าน" คือการเริ่ม สำรวจตัวเองว่ามีกำลังพอกับการเป็น "หนี้บ้าน" ที่ต้องกู้ระยะยาว และเป็นหนี้ก้อนใหญ่ได้มากน้อยแค่ไหน โดย สำรวจทั้ง รายได้ ที่มาของรายได้ รายจ่ายของตัวเอง หนี้สินที่มีอยู่ ซึ่ง การเลือกบ้านสอดคล้องกับความสามารถในการผ่อน ช่วยให้มีโอกาส "กู้ผ่าน" ได้มากขึ้น 2. วางแผนเก็บเงิน หลายคนอยากเริ่มต้นซื้อบ้านหลังจากที่ประเมินแล้วว่าตัวเองมีรายได้มากพอที่จะขอสินเชื่อบ้าน แต่นั่นอาจไม่ได้หมายความว่าเราจะ "ผ่อนไหว" ในระยะยาว โดยเฉพาะกรณีที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินเข้ามากระทบระหว่างทาง ดังนั้น ก่อนที่จะกู้ซื้อบ้าน ควร "เก็บเงิน" ไว้อย่างน้อย 10% ของราคาบ้าน สำรองการกู้ได้ไม่เต็มวงเงิน ดาวน์บ้าน สำรองการผ่อน หรือค่าธรรมเนียมอื่นๆ ซึ่งการมีเงินสำรองจะสะท้อนว่าเรามีกำลังที่จะผ่อนชำระได้มากขึ้น ซึ่งมีโอกาสทำให้สินเชื่อผ่านอนุมัติได้มากขึ้น 3. สร้างประวัติการเงินสวยๆ สำหรับมนุษย์เงินเดือนมักจะมีรายได้สม่ำเสมอเข้าบัญชีทุกเดือนอยู่แล้ว จึงอาจมีโอกาสกู้เงินได้ง่ายกว่าเนื่องจากประวัติการเงินชัดเจน ตรวจสอบได้ และมีบริษัทรับรอง แต่สำหรับคนที่ไม่มีรายได้ประจำ เช่น "ทำอาชีพอิสระ" หรือ "ฟรีแลนซ์" ควรนำเงินเข้าบัญชีอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำรายรับรายจ่ายแสดงรายได้ที่เลขเป็นระบบ ซึ่งจะช่วยสะท้อนกำลังในการผ่อนชำระของเราได้อย่างดี และมีโอกาสกู้ผ่านได้มากกว่า 4.
สินเชื่อที่อยู่อาศัย ราคา 10 ล้านบาท ขึ้นไป กำหนด LTV ratio ไว้ที่ สัดส่วน 80% หรือต้องมีเงินดาวน์ไม่ต่ำกว่า 20% ของมูลค่าหลักประกัน 2. สินเชื่อที่อยู่อาศัยแนวสูง ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท (คอนโดมิเนียม) กำหนด LTV ratio ไว้ที่ สัดส่วน 90% หรือต้องมีเงินดาวน์ไม่ต่ำกว่า 10% ของมูลค่าหลักประกัน 3.
ตัวผู้กู้เอง (โปรไฟล์ผู้กู้) ธนาคารจะดู รายได้ หนี้สิน ความสามารถในการจ่ายหนี้ ประวัติทางการเงินของผู้กู้ค่ะ หลักฐานทางการเงิน เครดิตบูโร จึงเป็นเรื่องสำคัญค่ะ อกเขาอกเรานะคะ คิดง่ายๆ ถ้ามีคนมาขอยืมเงินจากเรา ก้อนใหญ่ ยืมระยะยาวซะด้วย เป็นใคร ใครก็ต้องเช็คดูประวัตินะคะ บางคนบอกว่า ตัวเองเคยมีประวัติ (ชำระหนี้ล่าช้า) แต่ทำไมซื้อรถผ่อนรถได้ อยากให้ข้อสังเกต นิดหนึ่งนะคะ รถ (สังหาริมทรัพย์) ที่เราผ่อนกับไฟแนนซ์ ผู้กรรมสิทธ์ ตามกฎหมาย คือ บริษัทไฟแนนซ์ต่างๆ นะคะ เราเป็นเพียงผู้ครอบครอง รถ เท่านั้น เพราะฉะนั้น การปล่อยสินเชื่อ รถ จึงง่ายกว่า มากค่ะ 2.
ใครๆ ก็ฝันอยากมีบ้านในรูปแบบที่ตัวเองต้องการ สามารถเลือกดีไซน์หรือฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตรงใจ ซึ่ง ถ้าหากเรามีที่ดินเปล่าอยู่แล้ว ทั้งจากมรดกที่ได้รับมาหรือเคยซื้อเก็บไว้ ก็นำมาต่อยอดปลูกสร้างบ้านสไตล์ที่ชอบบนที่ดินตัวเองได้ หรือหากเราต้องการซื้อที่ดินใหม่พร้อมปลูกสร้างบ้านสวยๆ ก็สามารถทำได้ เช่นกัน แต่กว่าจะมีบ้านในฝันต้องใช้เวลานานแค่ไหน?
8 ล้านบาท ถือเป็นจำนวนเงินที่เหมาะสม กับความสามารถในการกู้ของคุณ เมื่อคิดจากรายได้ของคุณกับยอดผ่อนชำระต่อเดือนที่ 11, 200 บาท จากการประเมินศักยภาพการกู้นี้ ทำให้คุณมองหาบ้านในราคาที่สอดคล้องกับรายได้ และจะทำให้คุณผ่อนได้สบายขึ้นไปอีก โปรดอย่ารีรอ ข้อเสนอดี ๆ และสิทธิพิเศษสุดยอดแบบนี้รอคุณอยู่ เพื่อสานฝันของคุณให้เป็นจริง สอบถามข้อมูลและศึกษารายละเอียดเรื่องอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อน และการทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมได้ คลิกเลย
เรื่องของผู้กู้ ผู้กู้ร่วมและคนค้ำประกัน เรื่องนี้ต้องเอาให้ชัดเจนว่าใครจะกู้ร่วมบ้าง (สูงสุดกู้ร่วมได้ 3 ร่วมกับกู้หลัก 1 เป็น 4 คน) คนที่กู้หลักและกู้ร่วมจะต้องแสดงหลักฐานทางการเงิน ที่อยู่ และอื่นๆให้ชัดเจน 2. เอกสารเกี่ยวกับที่ดินที่ต้องการซื้อ และแบบบ้านที่ต้องการสร้าง ต้องมีพร้อม เพื่อสะดวกในการประเมินที่ดินและวงเงินกู้ 3. เงินค่าธรรมเนียมในการขอกู้ ตรงนี้ต้องมีอย่างน้อยก็ ห้าพันขึ้นไป การขอกู้เงินซื้อที่ดิน พร้อมกู้สร้างบ้านเป็นการสร้างหนี้ที่มีผลภาระผูกพันค่อนข้างยาว ดังนั้นควรวางแผนและศึกษาข้อมูลให้ละเอียดรอบคอบเสียก่อน ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยสามารถถามได้ทุกธนาคารที่เราสนใจ หากคุณมีความพร้อมก็นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ควรเก็บไว้พิจารณาได้ ที่มา: Money Hub เมนูนำทาง เรื่อง
elderlyinnovation.com, 2024