อย่าลืมดูกราฟด้วย เพราะมันจะบอกว่า แต่ละเดือนเข้าถึงไหนๆ เอาที่มัน ชี้ขึ้น ชี้ลงอย่าเสี่ยงมันไม่มีผลต่อการเสริช
4 จากภาพด้านล่าง เลือก "Create an account without a campaign" link เพื่อสร้างบัญชีผู้ใช้โดยไม่ต้องใช้ลิงก์สำหรับทำแคมเปญ 5 เลือก "Submit" ในหน้าถัดไป ซึ่ง Google ไม่ได้เก็บเงินค่าใช้บริการ การสมัครเป็นอันเสร็จสมบูรณ์! 6 เมื่อคุณสามารถใช้งานได้แล้ว เข้าไปที่ปุ่ม Tools จากไอคอนรูปเครื่องมือ และเลือก "Switch to expert mode. " 7. กดลือกเมนู "Tools" อีกครั้ง จากนั้นเราจะเห็นเมนู Keyword Planner ใต้เมนู Planner ค่ะ วิธีการใช้งาน Keyword Planner ก่อนเริ่มใช้งานจริง Google Keyword Planner จะมีวิธีการหา Keyword 2 แบบคือ Discover New Keywords คือการหา Keyword ที่คนทั่วไปในช่วงเวลานั้นสนใจมากน้อยเท่าไหร่ ซึ่งสามารถใส่คีย์เวิร์ดได้สูงสุดถึง 10 คำ Search Volume and Forecasts: Search Volume คือการทราบจำนวนการค้นหาของ Keyword ในแต่ละเดือนอยู่ที่เท่าไหร่ เราลองเจาะลึกลงไปกับวิธีการใช้งานทั้ง 2 แบบกันค่ะ ว่ามีรายละเอียด และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง 1.
ข้อจำกัดในการใช้เครื่องมือ Google จะแนะนำ Keyword เพิ่มเติมให้ไม่เกิน 2000 -3000 คำนะคะ จากตัวอย่างด้านล่างนี้ เราจะเห็นว่าผลลัพธ์จากการค้นหาจะมีไอเดียแนะนำมาให้ 4, 715 คำ 2.
สามารถเลือกวัน เดือน ปี ที่เกิดการค้นหาคีย์เวิร์ดได้ 8. เครือข่ายการค้นหาจะมีให้เลือกเฉพาะ Google ก็ได้หรือจะเลือกทั้ง Google และพาร์ทเนอร์ก็ได้ คำเหล่านี้เป็นคำที่อาจจะต้องทำความเข้าใจ เพื่อที่เราจะได้รู้เกี่ยวกับความหมายและผลลัพธ์ที่ Google แสดง และเพื่อจะได้ใช้ Google Keyword Planner ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การใช้ Keywords Planner คุณสามารถนำหัวข้อที่เราค้นหาไป เขียนคอนเทนต์ ได้อีกด้วยเช่นกัน
——————————- และทั้งหมดนี้ก็คือ 3 วิธีการค้นหาคีย์เวิร์ดสำหรับการขายของออนไลน์นั่นเองค่ะ หวังว่าร้านค้าเทพจะได้นำวิธีดังกล่าวไปใช้กันนะคะ แล้วได้ผลยังไง มาอัพเดทให้ฟังกันบ้างน้า:)
เขาว่ากันว่าอยากให้คนค้นหาเจออันดับต้น ๆ ต้องทำ SEO แต่พอจะทำก็ติดปัญหา เอ้ จะใช้ Keywords ไหนดีนะ คำไหนกันล่ะที่ลูกค้าใช้ในการค้นหา!
1. Focus Keyword โดยจะเป็นลักษณะคำสั้นๆ เจาะจงกับการค้นหา เช่น โฆษณา Facebook ทำเว็บ WordPress ขายของออนไลน์ เพื่อช่วยในการกำหนดหัวเรื่องในการเขียนบทความ หรือใช้สำหรับการค้นหา โดยส่วนมากมักจะใช้กับการทำ SEO มากกว่า 1. 2.
อันนี้ถ้าเราใส่เว็บไซต์ ของเราเข้าไปมันจะค้นหาให้เลยว่าเราควรจะทำคีย์อะไรที่มันเกี่ยวกับตัวเว็บ อันนี้ถือว่าเยี่ยมอีก เทคนิคเพราะว่า ถ้าเรามีการปรับ onpage เว็บไว้แล้ว คีย์มันจะแสดงผลให้เราเลือกเราก็เลือกคีย์อ่อนๆได้เลย จากนั้นก็เอาไปทำ off page seo โดยใช้คีย์ที่เราเลือกจากการค้นพบจากเว็บเรา แสดงข้อมูลเหมือนกันค่ะ 3. อันนี้ถ้าเราเลือกเป็น หมวดหมู่ มันจะแสดงผลให้เราค่ะ แสดงผลคีย์ที่คนเข้าต่อเดือนมากที่สุดมันจะเลือกตั้งแต่คนเข้าหลักมากๆ เป็นล้านลงมาเป็นแสน โดยประมาณ ทำให้ใครที่จะจ้างทำ seo คีย์ โหดๆ เนี่ยละก็ หนาวทั้งคนทำ หนาวทั้งคนจ่ายเลยทีเดียว คีย์แรงๆ แบบนี้ ถามว่าน่าเล่นไหม ถ้าติดแล้วรุ่ง แต่ใช้ระยะเวลานานและก็ เผลอๆ ค่าใช้จ่ายสูงลิ่วๆเลย แต่ก็ถือว่าเป็นอีกแนวทางเผื่อใครอยากจะเลือก คีย์โหดๆไปทำอันดับ 4. ตัวนี้ปรับประเทศเป็น ประเทศไทย ภาษาไทยซะนะค่ะ ตัวนี้ แม่มดไม่เล่นไรมากอ่ะแค่ปรับๆ ให้ตรงตามเป้าหมายการค้นของเรา 5. ตัวนี้เป็นการตั้งราคาแคมเปญ การคลิกว่าเรามีงบเท่าไหร่อยากจะได้คีย์ที่ มีราคา ตั้งแต่ เท่าไหร่ - เท่าไหร่ คนเข้าต่อเดือนเท่าไหร่ CPC เท่าไหร่เป็นต้น! อันนี้ก็การใช้โดยประมาณเบื้องต้นนำไปปรับใช้กับการเช็คคีย์ในการทำ seo หรือว่า เช็คคีย์ on page เว็บ เพื่อมาทำ seo ก็ได้ อันนี้ คีย์ที่แม่มดได้ เอามาให้ดูเล่นๆ อ๊อ!!!!
elderlyinnovation.com, 2024